แด่วัยเยาว์ของเราที่ผ่านพ้น 2 เล่มจบ
เขียน: ซินอี๋อู้, แปล: ดารินทิพย์
สนพ. Siam Inter Book
[ รีวิว ]
โอ้โห เขียนดีมาก ประทับใจฝีมือคนเขียนคนแปล แนวรักแรกของช่วยวัยรุ่น การเติบโต และการใช้ชีวิต และท้ายสุดการเลือกคนที่จะอยู่เคียงข้างตลอดไป
ในตอนเด็กเจิ้งเวย-นางเอก เป็นสไตล์กล้ารักกล้าชน ชอบใครจะพุ่งเข้าหาแบบไม่กลัวฟ้าดิน ตามสไตล์วัยรุ่น ถ้าไม่ลงมือตอนนี้จะรอให้ผมหงอกขาวก่อนหรือ ชอบใครก็พูดตรงๆ เสียใจก็พูดตรงๆ ไม่เป็นสไตล์แกล้งโง่ เราอ่านแล้วรู้สึกชอบนางเอกแบบนี้มาก
เรื่องนี้มีเรือ2ลำ ในตอนเด็กถือว่างานดีทั้งคู่
หลินจิ้ง: พี่ชายข้างบ้าน รักแรกตลอด 17 ปี คนที่อยู่มาในทุกช่วงการเติบโตเป็นเด็กสาวเจิ้งเวย คนที่เธอบอกว่าโตมาจะแต่งงานกับเขา ขอให้เขารอก่อน แต่เขาก็หนีไปเรียนต่ออเมริกาแบบไม่บอกกล่าว
เฉินเซี่ยวเจิ้ง: รุ่นพี่ปี2 คนที่ได้พบหลังจากหลินจิ้งจากไป คนที่เข้ามาเปิดโลกความรักให้กับเจิ้งเวย สอนให้รู้จักความรัก ความสุข และความทุกข์ให้กับเธอ รวมถึงเป็นอีกคนที่ทิ้งเธอไปเรียนต่ออเมริการเช่นกัน
ผู้ชายแต่ละคน พอโตมาเรานี่มองบนเลย ตอนแรกไม่อยากให้นางเอกเลือกใครสักคน แต่ละคนต่างทำให้นางเอกร้องไห้ทั้งนั้น ไม่มีใครดีพอ แต่นั่นแหละมันก็คือชีวิต เราต่างโหยหาความสุข เราต่างมีคนที่อยู่ในใจ ต่อให้ผ่านไปก็ไม่ลืมเลือน
เวลาที่ผ่านวัยเด็กและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ขัดเกลาความกล้าหาญ ความบ้าบิ่น ให้ลดลง ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลัง มองผลลัพธ์เป็นหลัก พูดแล้วก็น่าใจหาย บางคนเพื่อเป้าหมายก็ไม่สนวิธีการ จนลืมความรักไว้เบื้องหลังก็มี
แต่จบแฮปปี้นะ คนที่นางเอกเลือกก็เหมาะสมแล้วจริงๆ คนที่ทำให้เธอสามารถเป็นยัยหนูน้อยแก้มใสของเขาได้ตลอดไป และเป็นคนที่ทำให้เธอกลับมาสดใสและมีความสุขได้อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากเรื่องหลักของพระนางแล้ว เรื่องราวความรักของกลุ่มรูมเมทของนางเอกก็ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตและความรักได้สะท้อนใจดีไม่แพ้กัน กับบางคนความรักก็ไม่ใช่ที่หนึ่ง แค่ตอนนั้นเคยมีความสุข ได้ทุ่มเทที่สุดก็ดีมากแล้ว
ปล. ยังไม่ขอสปอยว่าใครเป็นพระเอก อยากให้อ่านและลุ้นกัน เพราะเรื่องราวระหว่างทางมันดีมากจริงๆ
** คำเตือน: สปอยเน้นๆ **
.
ในตอนเด็กเจิ้งเวย-นางเอก เป็นสไตล์กล้ารักกล้าชน ชอบใครจะพุ่งเข้าหาแบบไม่กลัวฟ้าดิน ตามสไตล์วัยรุ่น ถ้าไม่ลงมือตอนนี้จะรอให้ผมหงอกขาวก่อนหรือ ชอบใครก็พูดตรงๆ เสียใจก็พูดตรงๆ ไม่เป็นสไตล์แกล้งโง่ เราอ่านแล้วรู้สึกชอบนางเอกแบบนี้มาก
เรื่องนี้มีเรือ2ลำ ในตอนเด็กถือว่างานดีทั้งคู่
หลินจิ้ง: พี่ชายข้างบ้าน รักแรกตลอด 17 ปี คนที่อยู่มาในทุกช่วงการเติบโตเป็นเด็กสาวเจิ้งเวย คนที่เธอบอกว่าโตมาจะแต่งงานกับเขา ขอให้เขารอก่อน แต่เขาก็หนีไปเรียนต่ออเมริกาแบบไม่บอกกล่าว
เฉินเซี่ยวเจิ้ง: รุ่นพี่ปี2 คนที่ได้พบหลังจากหลินจิ้งจากไป คนที่เข้ามาเปิดโลกความรักให้กับเจิ้งเวย สอนให้รู้จักความรัก ความสุข และความทุกข์ให้กับเธอ รวมถึงเป็นอีกคนที่ทิ้งเธอไปเรียนต่ออเมริการเช่นกัน
ผู้ชายแต่ละคน พอโตมาเรานี่มองบนเลย ตอนแรกไม่อยากให้นางเอกเลือกใครสักคน แต่ละคนต่างทำให้นางเอกร้องไห้ทั้งนั้น ไม่มีใครดีพอ แต่นั่นแหละมันก็คือชีวิต เราต่างโหยหาความสุข เราต่างมีคนที่อยู่ในใจ ต่อให้ผ่านไปก็ไม่ลืมเลือน
เวลาที่ผ่านวัยเด็กและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ขัดเกลาความกล้าหาญ ความบ้าบิ่น ให้ลดลง ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลัง มองผลลัพธ์เป็นหลัก พูดแล้วก็น่าใจหาย บางคนเพื่อเป้าหมายก็ไม่สนวิธีการ จนลืมความรักไว้เบื้องหลังก็มี
แต่จบแฮปปี้นะ คนที่นางเอกเลือกก็เหมาะสมแล้วจริงๆ คนที่ทำให้เธอสามารถเป็นยัยหนูน้อยแก้มใสของเขาได้ตลอดไป และเป็นคนที่ทำให้เธอกลับมาสดใสและมีความสุขได้อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากเรื่องหลักของพระนางแล้ว เรื่องราวความรักของกลุ่มรูมเมทของนางเอกก็ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตและความรักได้สะท้อนใจดีไม่แพ้กัน กับบางคนความรักก็ไม่ใช่ที่หนึ่ง แค่ตอนนั้นเคยมีความสุข ได้ทุ่มเทที่สุดก็ดีมากแล้ว
ปล. ยังไม่ขอสปอยว่าใครเป็นพระเอก อยากให้อ่านและลุ้นกัน เพราะเรื่องราวระหว่างทางมันดีมากจริงๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เรื่องนี้เรามองว่าพระเอกมี 2 คนนะ ต่างคนต่างเป็นพระเอกในช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของเจิ้งเวย
ในช่วงวัยรุ่น มันก็มีใช่ไหมที่เราจะทุ่มเทให้ความรัก แบบไม่สนผลที่ตามมา เราวิ่งตาม ดื้อดึง จนได้มาครองอย่างสมใจนึก นั่นก็คือ เฉินเซี่ยวเจิ้ง คนที่ก้าวเข้ามาในช่วงที่เจิ้งเวยกำลังพยายามลืมและมูฟออนจากหลินจิ้งที่จากไปเรียนต่อแบบไม่บอกกล่าว
เฉินเซี่ยวเจิ้ง (อาเจิ้ง)
อาเจิ้ง เด็กหนุ่มบ้านไม่รวย แต่ขยันเรียน ชีวิตมีเป้าหมาย แต่ดันมีแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเจิ้งเวยที่เข้ามาในชีวิต เป็นเหมือนความคลาดเคลื่อนเพียงหนึ่งเซ็นติเมตรที่ทำให้ตึกที่เขาเฝ้าสร้างสามารถพังทลายลงมาได้ เจิ้งเวยสอนให้เขารู้จักความรัก จากปากที่เคยปฏิเสธเธอก็พ่ายแพ้แพ้ให้กับความดื้อดึงแสนซนของเจิ้งเวยจนได้ เมื่อได้คบกันพวกเขาดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างเต็มที่ในรั้วมหาลัย คู่นี้เป็นเหมือนตัวแทนความรักของวัยหนุ่มสาว แฟนคนแรก ความสุข ความทุกข์ ประสบการณ์ครั้งแรกในทุกอย่าง เจิ้งเวยล้วนได้เรียนรู้จากคนๆ นี้
ในเรื่องราวความรักของพวกเขา เจิ้งเวยล้วนเป็นฝ่ายวิ่งตามอยู่เสมอ จากคนที่ไม่เคนต้องรอใคร จากคนเอาแต่ใจ เป็นเด็กที่ใครๆล้วนสปอย์ กลับต้องเปลี่ยนไปเพราะความรัก เหมือนคำพูดที่ว่าใครรักก่อนแพ้ เพราะถ้าเรารักเขาก่อน ต่อให้รอนานแค่ไหนก็รอได้ ต่อให้เขาโกรธแค่ไหนเราก็จะพยายามง้อ ต่อให้เขาไม่สนใจเราก็จะพยายามเอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่เขาเห็น และเพียงแค่เขายิ้มให้เราก็พร้อมจะกลับไปอยู่ข้างกายเขาเสมอ
แต่ความสุขล้วนไม่ได้อยู่ตลอดไป คนเรามักจะมีทางแยกในชีวิตให้ต้องเลือกทางเดินต่อ ซึ่งทางที่อาเจิ้งของเธอเลือก คือความฝันและความมุ่งมั่นในวัยเยาว์ของเขา เพราะความรักไม่ใช่ทุกอย่าง เขาไม่อาจทนตัวเองที่ทำให้เจิ้งเวยต้องมาอยู่กับเขาแบบยากลำบาก นั่นคือความดื้อดึงของเขา เขาสามารถเดินออกจากชีวิตเธอได้อย่างได้ง่าย โดยไม่เปิดทางให้เธอรอเขาด้วยซ้ำ และเพราะแบบนี้ทั้งคู่ถึงเลิกกันไป
สามปีผ่านไป อาเจิ้งกลับมาแบบโปรไฟล์หรูหรา คนหนุ่มที่เติบโตในหน้าที่การงาน และเดินเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง แน่นอนว่าความรักของเจิ้งเวยยังคงอยู่ แค่เพียงเห็นหน้า แค่เพียงเขาเรียกชื่อ แค่เพียงเขาทำดีด้วย เธอก็พร้อมกลับไปเป็นเวยเวยของอาเจิ้งอีกครั้ง แต่โลกมักจะเล่นตลกเสมอ เมื่อเธอได้รู้ความจริงว่าเขาแต่งงานแล้ว การเติบโตในหน้าที่การงานของเขามาจากการแต่งเข้าตระกูลหนึ่ง แม้ว่าอาเจิ้งจะขอให้เธอรอเขา แต่หนนี้เธอจะไม่รอเขาอีกแล้ว เขากลับมาและโกหกเธอจะให้กลับไปเชื่อใจอีกครั้งคงไม่ได้ และความรักที่ไม่เคยมอดดับนั้น ในที่สุดก็โดนอาเจิ้งคนนั้นเอาคำโกหกมาเป็นตัวขยี้ขี้เถ้าที่เคยปะทุให้ดับลง
เจิ้งเวย (เวยเวย/ยัยหนูน้อยแก้มใส)
สาวน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ใครๆเห็นต่างพากันอยากเข้าใกล้ อยากเอาใจเธอ หรือเจ้าของฉายายัยหนูน้อยแก้มใส รักแรกของเธอคือหลินจิ้ง พี่ชายข้างบ้านที่เธอเติบโตมาด้วย เป็นคนที่เธอกรอกหูเขาทุกวันว่าให้รอเธอโต เธอจะแต่งงานกับเขา เธอพยายามที่จะไปเรียนมหาลัยเมืองเดียวกับเขา ในที่สุดก็สอบติดแต่เขาคนนั้นกลับไม่รอเธอ ชิงหนีไปเรียนต่อโดยไม่บอกกล่าว ทิ้งให้ความรักที่ยังไม่ทันเริ่มต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย
แต่ความรักครั้งใหม่กลับเข้ามาทักทายแบบไม่มีให้ทันตั้งตัว เฉินเซี่ยวเจิ้ง รุ่นพี่ปีสองที่แสนเย็นชา เพราะเธอทำโมเดลเขาเกือบพังจึงโดนเขาผลักให้ล้มลง มีเหรอที่ยัยหนูน้อยอย่างเธอจะยอม ผู้ชายส่วนใหญ่ล้วนแต่ทำดีกับเธอ พอมาเจอแบบนี้มันเคยทำให้ต่อมหาเรื่องของเธอทำงาน อยากจะให้เขามาขอโทษเธอ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเธอตกหลุมรักเขาแทน
ระหว่างที่คบกับอาเจิ้ง มีสุข มีทุกข์ ถึงขั้นวาดฝันว่าจะไปทำงานที่เดียวกัน มีอนาคตร่วมกัน เธอรู้ดีว่าเขามีหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อครอบครัว ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจ แต่เธอเพียงแค่ถ้าเขาถามเธอสักนิด เธอจะไม่มีวันขวางทางเขาแน่นอน เธอแค่อยากอยู่ในชีวิตของอาเจิ้งต่อไป แต่เขากลับไม่เปิดโอกาส เขาบอกให้เธอไม่ต้องรอและสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีเขาได้เลย
เมื่อเธอทำงานได้สามปี หลินจิ้งและอาเจิ้งที่เคยหายไปก็กลับมา ทั้งคู่กลับมาในรูปแบบที่อยากเข้ามาเป็นส่วนนึงของชีวิตเธอ แน่นอนว่าเธอหวั่นไหวกับอาเจิ้งของเธอ แต่เมื่อรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว สุดท้ายเขาเลือกผู้หญิงที่ทำให้ความฝันอันทะเยอทะยานสำเร็จ มันทำให้ความรักที่เธอเคยมีให้เขานั้นจบลง และที่พึ่งในยามที่อ่อนไหวที่สุดของเธอก็ยังคงเป็นคนเดิม หลินจิ้ง
เธอรู้ดีว่าไม่ควรที่จะพึ่งพิงหลินจิ้ง แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ เธอต้องการความอบอุ่นของเขามาช่วยคลายความเหงาและปลอบโยนเธอ ความสัมพันธ์ที่แสนคลุมเครือเลยเริ่มต้นขึ้น หลินจิ้งให้อิทธิพลที่ดีต่อเธอ เขาค่อยๆทำให้เธอกลับมาสดใส ร่าเริง เป็นตัวของตัวเอง จนได้เห็นเค้ารางของยัยหนูน้อยแก้มใสอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าเธอจะทำตัวยังไงก็ได้เพราะข้างเธอจะมีหลินจิ้งคอยปกป้องเธอเสมอ ความใส่ใจของเขาล้วนทำให้เธอหวั่นไหว
และเมื่อถึงทางแยกของชีวิตอีกครั้ง เธอรู้ว่าหลินจิ้งเขารักเธอจากใจจริง และเมื่อเธอถามตัวเอง เธอบอกได้เลยว่า เขาคนนี้ทำให้เธอมีความสุข และเธอพร้อมจะรับกับคำว่าตลอดไปของเขา และคำว่าคู่ชีวิต แม้จะไม่ได้มีความสุขในทุกวัน มีบ้างที่น้อยใจเพราะงานหลินจิ้งไปได้ดีจนทำให้ต้องอยู่ไกลกัน แต่เขาคนนี้เป็นคนที่คุ้มค่าที่เธอจะรอคอย :)
หลินจิ้ง
เด็กหนุ่มที่เป็นพี่ชายข้างบ้านของเจิ้งเวย คนที่คอยกางปีกปกป้องเจิ้งเวยมาโดยตลอด เขาเป็นคนที่ใจดี อ่อนโยน หากวันใดบ้านเจิ้งเวยทะเลาะกันที่บ้านเขาจะพาเธอมาทานข้าว แม่และพ่อเขาต่างเอ็นดูเหมือนลูกสาว จนเจิ้งเวยตัวน้อยกล้าที่จะบอกว่าสักวันนึงเธอจะโตและแต่งงานกับเขา เขาในวัยเด็กเพียงแค่ยิ้มรับคำพูดของเธอ เพราะเขาถ้าพูดหรือให้สัญญาออกไปเขาจะพูดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
แต่ด้วยความจริงเปิดเผยว่าจริงๆแล้วพ่อเขากับแม่ของเจิ้งเวยต่างเป็นรักแรกของกันและกัน รวมไปถึงพ่อของเขาอยากจะหย่าเพื่อไปแต่งงานกับแม่ของเจิ้งเวย ทำให้บ้านเขาแตก ความรู้สึกของคนที่ชื่นชมพ่อมาตลอด เขารู้สึกรับไม่ได้ รวมถึงความรู้สึกของเขากับเจิ้งเวย หากพ่อแต่งงานใหม่นั่นหมายถึงเธอและเขาจะเป็นพี่น้อง งั้นไม่สู้เขาหนีไปเรียนต่อ โดยไม่บอกความจริงให้เจิ้งเวยรู้ยังดีกว่า ให้เป็นเขาเพียงคนเดียวที่เจ็บปวดกับความรักที่ยังไม่ได้เริ่มต้นนี้
แต่เมื่อรักไปแล้ว ย่อมไม่ง่ายที่จะหมดรัก ใช่แล้ว เขาเคยโทรหาเธอ และได้รู้ว่ายัยหนูน้อยแก้มใสของเขามีแฟนเสียแล้ว แถมยังได้เห็นกับตาว่าชายหนุ่มคนนั้นเพียงแค่ยิ้มให้เธอเพียงเล็กน้อย เธอก็พร้อมจะยิ้มตอบและวิ่งไปหาเขาอย่างมีความสุขที่สุด ซึ่งคนที่ทำให้เธอมีความสุขกลับไม่ใช่เขาอีกต่อไปแล้ว
เจ็ดปีผ่านไป ในงานแต่งงานของเพื่อนเขา ในที่สุดก็ได้พบเธออีกครั้ง แม้ว่าเธอจะยังโกรธเขาก็จะพยายามที่จะกลับมาเป็นส่วนนึงของชีวิตเธอ และไม่ง่ายเลยที่รู้ว่าแฟนเก่าเธอคนนั้นก็กำลังพยายามจะกลับมามีบทบาทเหมือนกัน ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก ถ้าเธอต้องการเขา เขาจะไปหา ถ้าเธอต้องการไออุ่นหรือที่พักพิงจากความเจ็บปวดเขาก็จะมอบให้ ถ้าเขาจะต้องเป็นคนไม่ดีที่ใช้โอกาสจากความอ่อนแอของเธอเขาก็ไม่สน ครั้งนี้เขาจะไม่ถอยอีกแล้ว ถ้าเพื่อทำให้เธอมีความสุขเขาก็ยินดี เพราะมีแค่ยัยหนูน้อยของเขาเท่านั้นที่เขาพร้อมจะใช้คำว่าตลอดไปด้วยกัน ส่วนเรื่องแม่ของเขาไม่ชอบเจิ้งเวยด้วยเรื่องของรุ่นพ่อแม่ นั่นเป็นปัญที่เขาจะจัดการเอง เขาจะไม่ผลักภาระให้เธอ และแน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้ว ก็หลินจิ้งนี่แหละที่ทำให้ยัยหนูน้อยแก้มใสคนเดิมกลับมา :)
บทสรุป
หลังอ่านจบ เราชอบบทสรุปแบบนี้นะ เหมือนกับที่เจิ้งเวยบอกไว้ว่า "บางทีตอนทียังเป็นวัยรุ่น ผู้หญิงทุกคนต่างก็เคยเจอเฉินเซี่ยวเจิ้งของพวกเธอ จากนั้นถึงค่อยเจอหลินจิ้ง ส่วนผู้ชายทุกคนต่างก็เคยเป็นเฉินเซี่ยวเจิ้ง จนพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ในที่สุด ก็จะกลายเป็นหลินจิ้ง"
ถ้าอ่านดูแต่แรกจะรู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่าง อาเจิ้ง-เวยเวย เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก ในการวิ่งตามคนๆนึง ยอมเขาสารพัด แต่เขาไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง และยังเป็นคนที่เดินออกจากความสัมพันธ์เพราะความขี้ขลาดที่จะสู้ไปด้วยกันกับเธอ แต่เขากลับมาตอนที่ตัวเองมีฐานะหน้าตาทางสังคม แต่มาพร้อมกับคำว่าแต่งงานแล้ว ยังรักเธอ ขอให้เธอรอ คือมันตลกมาก เหมือนยื่นสถานะเมียเก็บที่เธอรู้ว่าเพราะแบบนี้บ้านเธอกับหลินจิ้งถึงแตกหักกัน แน่นอนว่าเธอรับไม่ได้ แต่เธอก็ไม่เสียใจให้กับอดีตที่ผ่านมาเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น อาเจิ้งในอดีตคนนั้นเคยทำให้เธอมีความสุขมากจริงๆ
ส่วนตัวเราชอบ หลินจิ้ง-เวยเวย มากกว่า เขายังเป็นคนเดิมที่ใส่ใจเธอ รู้ใจเธอ ความผิดเดียวของเขาคือการหนีไปเรียนต่อโดยหายหน้าไปถึงเจ็ดปี แต่เมื่อคิดได้แล้วกลับมา กลับเป็นคนที่มีสติเหนือทุกคน ความเป็นผู้ใหญ่ในความสัมพันธ์สามารถชนะใจยัยหนูน้อยของเขาได้ในที่สุด เขารอเธอได้ เขารับอดีตของเธอได้ ขอแค่เธอให้โอกาสเขาได้อยู่ในชีวิตเธอ ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของคู่นี้ มันเป็นแบบพึ่งพาอาศัย ค่อยๆแทรกซึมความรักลงไปส่วนลึกในใจ และกลายเป็นขาดไม่ได้ในที่สุด
และแม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป เจิ้งเวยตอนเป็นคุณแม่จะได้รู้ความจริงว่าอาเจิ้งเคยตัดสินใจที่จะยกเลิกไม่ไปเรียนต่อ แต่เมื่อโอกาสครั้งที่สองยื่นมาตรงหน้าเขา สุดท้ายเขาก็เลือกจะไปอยู่ดี ดังนั้นสำหรับชีวิตเธอที่ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันมันไม่มีคำว่า "ถ้าหากตอนนั้นเขาไม่ไป การตัดสินใจของเธอในวันนั้นที่เลือกหลินจิ้งจะเปลี่ยนไหม" เพราะเธอจะไม่เสียใจกับอดีตที่ผ่านมา แต่เธอจะยิ้มรับให้กับความรักในวัยเยาว์ที่ผ่านพ้นไปแล้วแทน
By. เจ้าพี
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น