จะรักใครก็รักไป (3 เล่มจบ)
ผู้เขียน : เฟิงหลิวฟูไต
สนพ. : อรุณ
เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่าน จนกลัวว่าสิ่งที่รีวิวจะไม่สามารถอธิบายได้ดีพอกับสิ่งที่ได้รับจากหนังสือ
หนังสือ : จะรักใครก็รักไป 3 เล่มจบ |
[คำโปรย]
เรื่องราวของหญิงสาวที่ได้รับโอกาสที่สวรรค์ประทานให้อีกครา ในชาติก่อน กวนซู่อี ยึดมั่นในคุณธรรม เมตตาธรรม และศีลธรรมจรรยา มีความรู้อย่างถ่องแท้และกว้างขวาง กลับถูกข้อห้ามสตรี กดข่มจนชีวิตต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรม ชาตินี้ ไม่ว่าทุกอย่างทีอยู่ตรงหน้าจะจริงหรือเท็จ หรือเป็นการสะท้อนของคันฉ่องวัฏสงสาร นางก็ยินดีจะแลกเปลี่ยนนับแต่บัดนี้!
นางไม่คิดแค้นผู้ใด ปรารถนาเพียงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในชาตินี้ผู้ใดจะคู่กับใคร ใครจะรักใคร เกี่ยวอันใดกับนางด้วย
[รีวิว]
เนื่องจากเรื่องนี้ค่อนข้างยาว ยากมากที่จะพูดแบบภาพรวมทีเดียวของหนังสือทั้ง 3 เล่ม เราเลยจะขอแบ่งรีวิวออกเป็น 3 พาร์ท ตามเล่มของหนังสือจ้า
เรื่องนี้ถ้าใครอ่านตัวอย่างนิยายจากเด็กดีมาก่อนจะรู้เลยว่าครึ่งเล่มแรกของหนังสือยังไม่มีการเฉลยว่าใครเป็นพระเอกของเรื่อง ระหว่างท่านโหวตระกูลจ้าวที่นางเอกแต่งด้วย หรือฮ่องเต้ แต่ถ้าใครซื้อจากงานหนังสือตอนหนังสือออกก็ชัดเจนว่าใครเป็นพระเอก เพราะขึ้นปกหราขนาดนั้น 555 ดังนั้นคิดว่าไม่น่าต้องรีวิวแบบหลบสปอยกันละเนาะ 555
เล่ม 1 : ชีวิตใหม่ + แรกรัก
หนังสือได้พาเรามารูจัก กวนซู่อี หรือ อีอี นางเอกของเรื่องก่อน โดยเล่าเรื่องราวในชาติก่อน ก่อนที่นางจะตายอย่างน่าสงสาร ชีวิตพบเจอการกลั่นแกล้งสารพัดวิธี และตายอย่างโดดเดี่ยวในตระกูลจ้าว ซึ่งเป็นการเริ่มเรื่องอย่างน่าติดตาม ว่าทำไมนางถึงต้องเจออะไรแบบนั้น และเมื่อนางมีโอกาสเกิดใหม่อีกครั้ง หรือเรียกว่าเหมือนเวลาได้ย้อนกลับ กลับไปในช่วงก่อนจะแต่งเข้าตระกูลจ้าว ทำให้ลุ้นว่านางจะเลือกทางเดินที่เปลี่ยนไปหรือไม่
แต่ท้ายสุด ลิขิตสวรรค์ก็เหมือนเลี่ยงไม่ได้ แม้ย้อนเวลากลับมาก็ยังหนีไม่พ้นราชโองการแต่งเข้าตระกูลจ้าวอยู่ดี โดยนางแต่งกับจ้าวลู่หลี คนที่ยังไม่ลืมภรรยาเก่าที่ตายไปแล้ว แถมยังมีลูกเลี้ยงอีก 2 คน ให้ดูแล แต่ครั้งนี้นางจะเปลี่ยนไป อะไรที่ทำเมื่อชาติที่แล้ว แล้วไม่ได้ดี นางก็จะไม่ทำ หากเลี้ยงลูกให้ผู้อื่น แล้วเด็กไม่มีความกตัญญูกับนาง นางก็จะไม่สนใจอีกแล้ว ซึ่งนิสัยและการเลือกทางเดินที่เปลี่ยนไปทำให้หนังสืออ่านแล้วมีความสนุกมากขึ้น นางมีความคิดนอกกรอบ แต่ก็วางตัวอยู่ในกรอบได้อย่างเหมาะสม แม้จะแต่งงานแค่ในนาม แต่ก็ดูแลบ้านตระกูลจ้าวได้อย่างดี ตอนอ่านเลยนับถือตัวละครนี้มากขึ้นทีละน้อย
อีกทั้งด้วยนางเกิดในตระกูลปัญญาชน นางไม่โง่ กล้าพูดกล้าเถียง ด้วยความคิดและสิ่งที่นางพูดค่อนข้างจับต้องได้ สามารถอธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย จนไปเตะตาฮ่องเต้ ทำให้เราค่อยๆเชียร์ว่าแล้วจะลงเอยกันได้อย่างไร ในเมื่อนางแต่งงานแล้ว และคนที่ทำให้นางแต่งงานก็ฮ่องเต้นั่นแหละ! ยิ่งคิดเราก็ยิ่งสนุกมากขึ้นกับการอ่าน
แต่ด้วยเนื้อเรื่องถูกวางไว้ให้อยู่ระหว่างที่บ้านเมืองเพิ่งถูกสถาปนาใหม่ แว่นแคว้นยังไม่แข็งแรง ฮ่องเต้กำลังรวบรวมอำนาจ สร้างความน่าเชื่อถือ ดังนั้นหนังสือเรื่องนี้จะมีส่วนของปรัชญาให้ถกเถียงกันค่อนข้างเยอะ บางครั้งมันก็จะขัดๆกับการอ่านนิยายรักสักเล็กน้อย แต่หากไม่มีการถกเถียงเชิงปรัชญาของกวนซู่อี เราคงไม่ได้เห็นฮ่องเต้ตกหลุมรักนางหรอก เพราะมันเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่านางเอกเราฉลาดมากแค่ไหน
แต่บทรักมันส่งกันไม่ง่าย ด้วยความสัมพันธ์ตัวละครที่ซับซ้อน ทั้งจ้าวลู่หลี สามีของกวนซู่อี และเย่เจิน สนมที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ที่เป็นเมียเก่าที่ตายไปแล้วของจ้าวลู่หลี มันยิ่งทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้น ซับซ้อน อีกทั้งการที่ฮ่องเต้โปรดปรานกวนซู่อีแต่แตะต้องไม่ได้ และมีความรู้สึกอยากพบหน้า อยากเจอ จนทำให้รู้ตัวเองว่าเขาต้องการนางจริงๆ มันทำให้เราค่อยๆค้นพบตัวละครอีกตัวที่น่าสนใจคือฮ่องเต้ ว่าเขามีบุคลิกกี่ด้านกัน ด้านไหนคือด้านที่จริงใจกันแน่ แล้วความรู้สึกต่อเย่เจินของเขาคืออะไร ทำให้เราร่วมสงสัยไปกับสิ่งที่กวนซู่คิด
ดังนั้นถ้าให้สรุปเล่ม 1 มันเหมือนการประกาศตัวของกวนซู่อีว่านางเป็นหญิงเก่ง เป็นคนที่เหมาะแก่การเป็นฮองเฮาด้วยประการทั้งปวง ทั้งรูปโฉมงามล่มเมืองและมันสมอง โดยดูจากความสามารถ ความคิด การถกเถียงกับฮ่องเต้เชิงปรัชญา แต่เพราะนางแต่งให้คนอื่นไปแล้ว ทั้งยังเป็นราชโองการจากฮ่องเต้เองด้วย และจบเล่ม 1 นี้ ฮ่องเต้ก็รู้ใจตัวเองเป็นที่เรียบร้อยว่าชอบกวนซู่อี อยากได้นางมาครอบครอง และโกรธแค้นเย่เจิน ที่มาขอให้เขาพระราชทานสมรสให้กวนซู่อีกับจ้าวลู่หลี ทำให้เขาต้องหาทางช่วยกวนซู่อีออกมา และดึงนางมาเป็นของเขา โดยแผนการของเขาจะเริ่มขึ้นในเล่ม 2 อีกทั้งความสัมพันธ์ของฮ่องเต้กับเย่เจิน หนังสือก็จะคลายความสงสัยให้เราทีละนิดๆ
เล่ม 2 : สารภาพรัก + เปิดใจ
หลังจากฮ่องเต้รู้ตัวแล้วว่าชอบกวนซู่อี ก็เริ่มวางแผนหาทางให้นางหย่าและรับนางเข้าวัง โดยเล่ม 2 เราจะได้เห็นด้านที่แท้จริงของฮ่องเต้ ค่อยๆเข้าใจพระเอกเรามากขึ้นทีละนิด ว่าเหตุใดเขาถึงเอาเมียเพื่อนมาเป็นสนม แล้วเขาโปรดปรานเย่เจินจริงหรือ
หนังสือจะค่อยๆบอกเล่าเรื่องราวในอดีต ในวันที่เพื่อนรักระหว่างฮ่องเต้กับจ้าวลู่หลีแตกหักกัน โดยเหตุเกิดจากผู้หญิงคนเดียวอย่างเย่เจิน ด้วยความละโมภของนางและครอบครัวนาง อยากเป็นคนที่มีอำนาจ อยู่ในที่สูงเหนือคนนับหมื่น จึงหลอกพ่อของจ้าวลู่หลีให้เข้าใจว่านางมีสัมพันธ์กับฮ่องเต้ จนพ่อของจ้าวลู่หลีเกลียดนาง และผลักไสนางออกจากตระกูล และยกให้ฮ่องเต้ไปซะ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้อยากรับ พอจะคืนนางให้เพื่อน เย่เจินก็ใช้แผนฆ่าตัวตายอีก และเพราะนางเคยช่วยชีวิตเขา ทำให้เขาต้องรับนางไว้ดูแล โดยไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่เคยแตะต้องนางแม้แต่น้อย เลยรู้ว่าแท้จริงแล้ว ฮ่องเต้ก็ไม่เคยเปิดใจรับใครเลย จนมาเจอกวนซู่อี
และวันที่เขาห้ามใจไม่ไหวสารภาพรักออกไปก็มาถึง แต่ก็โดนนางปฏิเสธเนื่องจากนางเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว ทำให้เขายิ่งเจ็บยิ่งแค้นเย่เจินและจ้าวลู่หลีจนอยากหาทางจัดการคนคู่นี้ซะ จนเป็นเหตุให้เขาสามารถเล่นงานเย่เจิน สามารถทำให้กวนซู่อีหย่าขาดจากจ้าวลู่หลีได้ และได้เปิดเผยตัวต่อหน้ากวนซู่อี ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นฮ่องเต้ และตลอดมาได้แกล้งทำตัวเป็นสามัญชนมาตลอด แน่นอนว่านางโกรธ เขาก็พยายามตื้อ พยายามบอกรักนาง หรือแม้กระทั่งสอนเจ้านกขุนทองสัตว์เลี้ยเขาให้บินมาบอกรักนางทุกวัน(ส่วนซู่อีจะสอนให้นกขุนทองด่าฮ่องเต้กลับ) และพยายามล่อหลอกด้วยคำพูดหวานๆเพื่อให้นางเปิดใจรับเขา และเข้ามาในวัง ซึ่งบทที่ฮ่องเต้จีบกวนซู่อีนี่น่ารักมากกกกกก แม้นางจะหวั่นไหว แต่ก็ไม่ใจอ่อน
ฉากเดินเล่นด้วยกันในตลาดที่ทำให้กวนซู่อีได้เห็นด้านที่จริงใจของฮ่องเต้ หรือเรามองว่านี่คือฉากเดตนี่ก็ดีมาก หากมองข้ามฐานะ และข้อห้ามต่างๆ เราก็อยากให้เขามีความสุขด้วยกันซะเดี๋ยวนั้น เพราะคนที่กวนซู่อีเปิดใจแสดงด้านที่เป็นตัวตนของนางจริงๆออกให้เห็น ก็มีแค่ฮ่องเต้เท่านั้น มันเหมือนคน2คนที่เกิดมารับได้ทุกอย่างแม้ว่าเขาจะทำอะไรร้ายนิดๆ แสบๆหน่อย แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าน่ารัก และยิ่งรักมากขึ้นกว่าเดิม
แต่แม้อยากให้เป็นอย่างนั้นแค่ไหน แต่นางก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่หย่าแล้ว แม้นางจะยังบริสุทธิ์ก็เถอะ ใครจะอยากรับไปเป็นภรรยา และสังคมจะมองอย่างไร มันทำให้นางคิดมาก แม้ว่าฮ่องเต้จะพร่ำบอกว่าจะช่วยนางทุกทางก็ตาม
ดังนั้นเล่ม 2 ก็จบที่ฮ่องเต้แก้แค้นเย่เจิน ทำให้กวนซู่อีหย่าจ้าวลู่หลี และสารภาพรักกับกวนซู่อี แม้นางยังใจแข็ง ไม่ยอมรับคำแต่งงานกับฮ่องเต้ง่ายๆก็ตาม และเนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่การเกิดปรัชญาข้อห้ามของสตรี ที่กวนซู่อีจะต้องเอาชนะให้ได้ในอนาคต
เล่ม 3 : หนทางสู่อำนาจ + การต่อสู้ในวังหลัง
เข้าสู่เรื่องการต่อสู้กับหญิงผู้สูงศักดิ์ สังคมชั้นสูง และอำนาจ อำนาจที่กวนซู่อีไม่เคยอยากได้ แต่ท้ายที่สุดก็รู้ว่าถ้าไม่ได้มาครอบครอง ก็คงไม่มีทางที่จะช่วยเหลือตระกูลของนางได้
เราค่อนข้างชอบที่หนังสืออธิบายได้ดีถึงเส้นทางที่ก้าวมาเพื่อคำว่าอำนาจ โอเค นางเป็นที่รักของฮ่องเต้จริงนั่นไม่เถียง แต่นางเป็นนางเอกสายไฝว้อะ ไม่รอให้ผู้ชายปกป้อง แต่จะยืมอำนาจของผู้ชายมาปกป้องตนเองและครอบครัว มันดี! คือใครทำนางนางสวนกลับหมด การฟาดฟันของสังคมชนชั้นสูง ฮูหยินขั้น1 ต่างๆ องค์หญิง หรือสนมต่างๆในวัง คือมันเป็นการต่อสู้หลังบ้านที่นางรู้ว่าต้องเจอ เมื่อเลือกเส้นทางนี้ แต่นางก็ไม่ท้อสักนิด เราโครตนับถือ
และเรื่องนี้นางเอกวางตัวได้ต่างจากหนังสือเรื่องต่างๆที่ได้อ่านค่อนข้างมาก นางวางตัวชัดเจนว่านางจะต้องเป็นคนดี คนที่ทุกคนต้องเคารพ และต้องเป็นคนที่ที่สามีรักเพียงคนเดียว คือวางตัวสูงมาก และฮ่องเต้ก็ช่วยให้นางสมปราถนา ซึ่งมันคือการเปิดใจคุยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ให้ผู้หญิงรับหน้าฝ่ายเดียว มันโครตโอเค! ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆนี่นางเอกคงต้องดีดดิ้นขึ้นมาถึงตำแหน่งสูงสุดด้วยตนเอง ต้องหาทางมัดใจสามี โดยที่ไม่บอกเขาว่าต้องเขี่ยคนอื่นให้พ้นทางยังไง คือจะไม่แสดงด้านร้ายออกมานั่นเอง
แต่ไม่ใช่กับกวนซู่อี!! คือนางบอกทุกอย่าง และสามีเข้าใจ พร้อมช่วยนางทำตามแผนการอีกต่างหาก เลยคิดว่ามันเป็นโชคดีของนางจริงๆ แถมยังมีบทพิเศษอีก ที่ทำให้รู้ว่าของเพียงเปลี่ยนการกระทำแม้เพียงนิด สิ่งที่จะดำเนินต่อก็เปลี่ยนตาม แถมสุดท้ายต่อให้ต้องลำบาก นางก็จะลงเอยกับฮ่องเต้อยู่ดี
ดังนั้นสิ่งที่เราคิดว่าเราได้รับจากหนังสือเรื่องนี้ คือเรื่องคุณธรรม สิ่งที่ควรกระทำ ไม่ใช่เชื่อตามสิ่งที่คนที่เรียกตนเองว่าปัญญาชนเป็นคนเขียนบอก โดยไม่ใช้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์เข้าไป อ่านแล้วทำให้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ที่มากขึ้น และนับถือใจคนเขียน ที่สามารถเขียนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างละเอียดอ่อน อ่านได้ลื่นไหล รวมถึงคนแปลที่ทำให้เรารู้สึกอินกับมันได้ขนาดนี้ ^^
หนังสือจะค่อยๆบอกเล่าเรื่องราวในอดีต ในวันที่เพื่อนรักระหว่างฮ่องเต้กับจ้าวลู่หลีแตกหักกัน โดยเหตุเกิดจากผู้หญิงคนเดียวอย่างเย่เจิน ด้วยความละโมภของนางและครอบครัวนาง อยากเป็นคนที่มีอำนาจ อยู่ในที่สูงเหนือคนนับหมื่น จึงหลอกพ่อของจ้าวลู่หลีให้เข้าใจว่านางมีสัมพันธ์กับฮ่องเต้ จนพ่อของจ้าวลู่หลีเกลียดนาง และผลักไสนางออกจากตระกูล และยกให้ฮ่องเต้ไปซะ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้อยากรับ พอจะคืนนางให้เพื่อน เย่เจินก็ใช้แผนฆ่าตัวตายอีก และเพราะนางเคยช่วยชีวิตเขา ทำให้เขาต้องรับนางไว้ดูแล โดยไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่เคยแตะต้องนางแม้แต่น้อย เลยรู้ว่าแท้จริงแล้ว ฮ่องเต้ก็ไม่เคยเปิดใจรับใครเลย จนมาเจอกวนซู่อี
และวันที่เขาห้ามใจไม่ไหวสารภาพรักออกไปก็มาถึง แต่ก็โดนนางปฏิเสธเนื่องจากนางเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว ทำให้เขายิ่งเจ็บยิ่งแค้นเย่เจินและจ้าวลู่หลีจนอยากหาทางจัดการคนคู่นี้ซะ จนเป็นเหตุให้เขาสามารถเล่นงานเย่เจิน สามารถทำให้กวนซู่อีหย่าขาดจากจ้าวลู่หลีได้ และได้เปิดเผยตัวต่อหน้ากวนซู่อี ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นฮ่องเต้ และตลอดมาได้แกล้งทำตัวเป็นสามัญชนมาตลอด แน่นอนว่านางโกรธ เขาก็พยายามตื้อ พยายามบอกรักนาง หรือแม้กระทั่งสอนเจ้านกขุนทองสัตว์เลี้ยเขาให้บินมาบอกรักนางทุกวัน(ส่วนซู่อีจะสอนให้นกขุนทองด่าฮ่องเต้กลับ) และพยายามล่อหลอกด้วยคำพูดหวานๆเพื่อให้นางเปิดใจรับเขา และเข้ามาในวัง ซึ่งบทที่ฮ่องเต้จีบกวนซู่อีนี่น่ารักมากกกกกก แม้นางจะหวั่นไหว แต่ก็ไม่ใจอ่อน
ฉากเดินเล่นด้วยกันในตลาดที่ทำให้กวนซู่อีได้เห็นด้านที่จริงใจของฮ่องเต้ หรือเรามองว่านี่คือฉากเดตนี่ก็ดีมาก หากมองข้ามฐานะ และข้อห้ามต่างๆ เราก็อยากให้เขามีความสุขด้วยกันซะเดี๋ยวนั้น เพราะคนที่กวนซู่อีเปิดใจแสดงด้านที่เป็นตัวตนของนางจริงๆออกให้เห็น ก็มีแค่ฮ่องเต้เท่านั้น มันเหมือนคน2คนที่เกิดมารับได้ทุกอย่างแม้ว่าเขาจะทำอะไรร้ายนิดๆ แสบๆหน่อย แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าน่ารัก และยิ่งรักมากขึ้นกว่าเดิม
แต่แม้อยากให้เป็นอย่างนั้นแค่ไหน แต่นางก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่หย่าแล้ว แม้นางจะยังบริสุทธิ์ก็เถอะ ใครจะอยากรับไปเป็นภรรยา และสังคมจะมองอย่างไร มันทำให้นางคิดมาก แม้ว่าฮ่องเต้จะพร่ำบอกว่าจะช่วยนางทุกทางก็ตาม
ดังนั้นเล่ม 2 ก็จบที่ฮ่องเต้แก้แค้นเย่เจิน ทำให้กวนซู่อีหย่าจ้าวลู่หลี และสารภาพรักกับกวนซู่อี แม้นางยังใจแข็ง ไม่ยอมรับคำแต่งงานกับฮ่องเต้ง่ายๆก็ตาม และเนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่การเกิดปรัชญาข้อห้ามของสตรี ที่กวนซู่อีจะต้องเอาชนะให้ได้ในอนาคต
เล่ม 3 : หนทางสู่อำนาจ + การต่อสู้ในวังหลัง
เข้าสู่เรื่องการต่อสู้กับหญิงผู้สูงศักดิ์ สังคมชั้นสูง และอำนาจ อำนาจที่กวนซู่อีไม่เคยอยากได้ แต่ท้ายที่สุดก็รู้ว่าถ้าไม่ได้มาครอบครอง ก็คงไม่มีทางที่จะช่วยเหลือตระกูลของนางได้
เราค่อนข้างชอบที่หนังสืออธิบายได้ดีถึงเส้นทางที่ก้าวมาเพื่อคำว่าอำนาจ โอเค นางเป็นที่รักของฮ่องเต้จริงนั่นไม่เถียง แต่นางเป็นนางเอกสายไฝว้อะ ไม่รอให้ผู้ชายปกป้อง แต่จะยืมอำนาจของผู้ชายมาปกป้องตนเองและครอบครัว มันดี! คือใครทำนางนางสวนกลับหมด การฟาดฟันของสังคมชนชั้นสูง ฮูหยินขั้น1 ต่างๆ องค์หญิง หรือสนมต่างๆในวัง คือมันเป็นการต่อสู้หลังบ้านที่นางรู้ว่าต้องเจอ เมื่อเลือกเส้นทางนี้ แต่นางก็ไม่ท้อสักนิด เราโครตนับถือ
และเรื่องนี้นางเอกวางตัวได้ต่างจากหนังสือเรื่องต่างๆที่ได้อ่านค่อนข้างมาก นางวางตัวชัดเจนว่านางจะต้องเป็นคนดี คนที่ทุกคนต้องเคารพ และต้องเป็นคนที่ที่สามีรักเพียงคนเดียว คือวางตัวสูงมาก และฮ่องเต้ก็ช่วยให้นางสมปราถนา ซึ่งมันคือการเปิดใจคุยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ให้ผู้หญิงรับหน้าฝ่ายเดียว มันโครตโอเค! ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆนี่นางเอกคงต้องดีดดิ้นขึ้นมาถึงตำแหน่งสูงสุดด้วยตนเอง ต้องหาทางมัดใจสามี โดยที่ไม่บอกเขาว่าต้องเขี่ยคนอื่นให้พ้นทางยังไง คือจะไม่แสดงด้านร้ายออกมานั่นเอง
แต่ไม่ใช่กับกวนซู่อี!! คือนางบอกทุกอย่าง และสามีเข้าใจ พร้อมช่วยนางทำตามแผนการอีกต่างหาก เลยคิดว่ามันเป็นโชคดีของนางจริงๆ แถมยังมีบทพิเศษอีก ที่ทำให้รู้ว่าของเพียงเปลี่ยนการกระทำแม้เพียงนิด สิ่งที่จะดำเนินต่อก็เปลี่ยนตาม แถมสุดท้ายต่อให้ต้องลำบาก นางก็จะลงเอยกับฮ่องเต้อยู่ดี
ดังนั้นสิ่งที่เราคิดว่าเราได้รับจากหนังสือเรื่องนี้ คือเรื่องคุณธรรม สิ่งที่ควรกระทำ ไม่ใช่เชื่อตามสิ่งที่คนที่เรียกตนเองว่าปัญญาชนเป็นคนเขียนบอก โดยไม่ใช้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์เข้าไป อ่านแล้วทำให้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ที่มากขึ้น และนับถือใจคนเขียน ที่สามารถเขียนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างละเอียดอ่อน อ่านได้ลื่นไหล รวมถึงคนแปลที่ทำให้เรารู้สึกอินกับมันได้ขนาดนี้ ^^
ซื้อหนังสือ
ซื้อเล่ม: Shopee
เป็นนิยายที่อ่านเกิน20รอบ อ่านซ้ำไม่เคยเบื่อเลย ความคิดนางเอกคือดี ยิ่งบทสุดท้ายละสงสารนางเอกมากกก แต่ก็ถือว่าจบดีอยู่ 😢
ตอบลบ