[รีวิว] ซีรีย์จีน : Meteor Garden (F4 2018)

Meteor Garden (F4 2018)

Meteor Garden 2018
[เรื่องย่อ]
ต่งซันไช่ ผู้ที่เข้าเรียนได้รับเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยหมิงเต๋อ โดยคาดหวังว่าชีวิตตลอด 4 ปี จะเต็มไปด้วยความสุขและเรียบง่าย แต่แค่เปิดเทอมวันแรกชีิวิตก็มีอันผลิกผันเสียแล้ว เพราะด้วยความไม่ยอมใครของซันไช่ ที่กล้าไปท้าทายอำนาจมืดของ เต้าหมิงซื่อ หัวโจกใหญ่ประจำกลุ่ม F4

และรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ถูกกับเต้าหมิงซื่อ แต่กลับรู้สึกดีๆกับฮั๋วเจ๋อเล่ย เพื่อนสนิทเต้าหมิงซื่อซะอย่างงั้น แถมไปๆมาอาซื่อยังเกิดหลงรักในความดื้อรั้นของซันไช่อีก แล้วเรื่่องราวรักสาม สี่ ห้า เศร้า นี้จะจบลงเช่นไร มาติดตามกันเถอะ (เพราะอาซื่อเวอร์ชั่น 2018 นี้ดีมากกกกกกกก)

[นักแสดง]
นางเอกผู้เป็นศูนย์กลางของเรื่อง
ซันไช่ - เฉินเยว่

เจ้าของประโยคเด็ด "ถ้าคำขอโทษใช้ได้ผล จะมีตำรวจเอาไว้ทำไม?"
เต้าหมิงซื่อ - หวังเหอตี้ (Dylan Wang)
พระรอง ที่ไม่ว่าภาคไหนๆก็อยากให้เป็นพระเอก (ยกเว้นภาคนี้ 555)
ฮัวเจ๋อเล่ย - กวนหง (Darren Chen)

เหม่ยจั้ว - เหลียงจิ้งคัง (Connor Leong)

ซีเหมิน - อู๋ซีเจ๋อ (Caesar Wu)

[รีวิวซีรีย์]
เรื่องนี้ถูกนำไปทำเป็นซีรีย์มาก็หลายรอบ แต่ไม่รู้ทำไม ทำกี่รอบๆก็ดูทุกรอบ 555 และเวอร์ชั่น 2018 นี้ก็มีหลายข้อให้ชื่นชมมากๆ โดยจะขอลิสต์เป็นเรื่องๆไป

-- การดำเนินเรื่อง --
เนื้อเรื่องมีความดำเนินเรื่องได้ไว เริ่มเรื่องมาก็เข้าเปิดภาคเรียนเลย ได้เจอเต้าหมิงซื่อ และปะทะกันไปหลายฉาก ไม่มีการยืดเยื้อว่าแบบอาซื่อให้เพื่อนๆแบนซันไช่แบบเวอร์ชั่นก่อนๆ แถมยังมีการเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวซันไช่ เป็นการปูพื้นฐานครอบครัวซันไช่ให้เราได้เข้าใจก่อน ว่าทำไมนางเอกถึงเป็นคนแบบนั้น หรือทำไมเลือกตัดสินใจแบบนี้ พ่อแม่เลี้ยงดูมายังไง ซึ่งมันทำให้คนดูอินกับการแสดงมากขึ้น รวมทั้งการตีความความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ ที่มีเรื่องราวไม่เหมือนกัน และตอนจบที่แตกต่างกันไป

-- คาร์แร็กเตอร์ตัวละครที่แตกต่าง --
1. เต้าหมิงซื่อ : เราชอบเวอร์ชั่นนี้มากกกกกกก ปกติเวลาดูเวอร์ชั่นอื่นๆ ก็จะเชียร์เล่ยตลอด แต่!! ภาคนี้ไม่เหมือนกัน เพราะเราเชียร์อาซื่อแต่แรก แม้ด้วยคาร์แร็คเตอร์ภาคนี้นางจะปากร้าย จะดุ จะเถื่อน จะขี้หึง แต่นางก็จะเป็นกับซันไช่แค่คนเดียว แถมบทจะน่ารัก ก็น่ารักมากกกกก มีความขี้อ้อน ยิ้มเจ่าเล่ห์ ชอบแกล้งซันไช่ แต่ก็คอยเทคแคร์ตลอด แถมเวอร์ชั่นนี้เราว่าอาซื่อรักซันไช่มากแบบเว่อวัง คือยังไงก็ไม่เอาใคร ต้องซันไช่เท่านั้น และต่อให้ซันไช่ไม่เอาก็จะตามไปจีบถึงดาวอังคาร เรียกว่าฟิน!! เข้าทางคนดูไปหมดดดด
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
2. ซันไช่ : โดยรวมรู้สึกว่าซันไช่ภาคนี้ค่อนข้างขี้กลัว คือกล้าหาญเพื่อเพื่อน แต่พอเป็นเรื่องความรู้สึกตัวเองจะกลัวที่จะเอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง หรือไปอยู่ในจุดที่เต้าหมิงซื่อต้องการ ซึ่งก้อเข้าใจว่าอาซื่อทำให้นางกลัวจริงๆในตอนแรก และแม่อาซื่อก็ร้ายใช่ย่อย แต่เมื่ออาซื่อก็ทุ่มเทให้เยอะมาก เราว่าซันไช่ให้คืนน้อยไปหน่อย เหมือนเป็นฝ่ายรับเสียมากกว่า จนบางครั้งอาซื่อมีพูดว่าไม่เหมือนซันไช่คนเดิมที่เขาตกหลุมรัก จนนางมีแรงฮึดขึ้นมาสู้กลับ แต่มันก็ช้าไปหน่อยอะนะ (แต่เธออย่าเอาแรงนั้นมารุกอาซื่อได้ไหม จิกหมอนขาดเป็นใบละไงงงงง)

3. เล่ย : พระรองที่หลงรักทุกภาค ยกเว้นภาคนี้ เพราะอาซื่อมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ แต่เรื่องนี้เราชอบที่เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของอาซื่อกับเล่ย ซึ่งต่างคนต่างเข้าใจความรู้สึกกันดี และคอยช่วยเหลือเพื่อนเสมอ และเล่ยที่ยอมถอยให้อาซื่อ และไม่คิดแย่ง จนอาซื่อมีบอกว่าเล่ยนี่เหมือนรักแท้ของอาซื่อ ซึ่งเราก็คิดว่าถ้าไม่มีซันไช่ เรื่องนี้นี่สายวายแน่ๆ 5555

4. เสี่ยวซือ : คู่หมั้นของอาซื่อในภาคนี้ เป็นตัวละครที่ไม่ชอบสุด เพราะรู้สึกว่าเห็นแก่ตัวค่อนข้างมาก มักจะอ้างความเป็นเพื่อนกับซันไช่ แต่อยากได้อาซื่อ อยากให้ซันไช่อวยพรให้สมหวังกับอาซื่อ และสุดท้ายก็มายอมปล่อยมือจริงๆ ตอนท่ี่ยังไงๆอาซื่อก็ไม่รักใครได้อีก โดยบอกว่าจะขออยู่ข้างซันไช่ก็แล้วกัน ให้เขาได้สมหวังกัน ซึ่งมันตลกไปไหม =_=

-- การเล่าเรื่องราวของการตัดใจจากรักแรก --
1. ซันไช่ -> เล่ย
ไม่แปลกที่ผู้หญิงจะตกหลุมรักผู้ชายสักคนที่มีความอบอุ่น และอ่อนโยน ซึ่งในระหว่างที่อาซื่อรังแกซันไช่อย่างหนัก ก็มีเล่ยนี่แหละ ที่คอยช่วยเหลือในเวลาที่ซันไช่เกิดเรื่อง ใจของซันไช่เลยตกหลุมรักเล่ยได้อย่างง่ายดาย และสอนให้ซันไช่รู้ถึงการชอบใครสักคน แค่เขาหัวเราะ ยิ้ม เราก็สุขตาม แต่หากเขาเศร้าใจเราก็เศร้าไปด้วย และแน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วแม้เขาไม่รัก ก็เรียนรู้ที่จะถอยออกมา

2. เล่ย -> จิ้ง
รักซึมลึก ด้วยความเย็นชาของเล่ยในวัยเด็ก ถูกละลายด้วยความสดใสและใจดีของจิ้งในวัยเด็ก สิ่งเหล่านั้นช่วยเหลือให้เล่ยสามารถเข้าสังคมกับคนอื่นได้ ทำให้มีเพื่อนๆอย่างกลุ่ม F4 ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เล่ยรู้สึกขอบคุณเสมอ และมองจิ้งเป็นคนพิเศษเสมอมา จนกลายเป็นความรักในที่สุด และถึงแม้จะเสียดายที่ตนเองไม่ได้พยายามมากว่านี้ แต่ก็จะไม่เสียใจเมื่อสุดท้ายไม่ได้ครอบครอง

3. ซีเหมิน -> เสี่ยวเกิง
รักที่ไม่กล้าข้ามผ่านเส้นบางๆของคำว่าเพื่อน ด้วยความคิดที่ว่าปัจจุบันเป็นแบบนี้นั้นเพียงพอแล้ว แต่เป็นแค่ความคิดฝ่ายเดียว จนเสียอีกฝ่ายไป จนทำให้กลายเป็นปมในใจ และไม่กล้ารักใครอีกเพราะกลัวจะทำเขาเสียใจ และแม้ว่าเมื่อโอกาสจะทำให้ได้พบเจออีกครั้ง แต่เมื่อผ่านไปแล้วก็คืออดีต ไม่สามารถย้อนกลับมาได้ จึงได้แต่เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆร่วมกันเท่านั้น

4. อาซื่อ -> ซันไช่
 รักปักใจ ต้องบอกว่าอาซื่อตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้เสียแล้ว แถมพอลงไปแล้วอาซื่อก็ขึ้นมาไม่ได้อีกเลย ด้วยชีวิตที่ขาดคนที่กล้าจะมีปากมีเสียง หรือกล้าที่จะท้าทายเขา จนมาเจอซันไช่ คนที่คล้ายกับพี่สาวของเขา คนที่มาช่วยให้เขามีนิสัยที่ดีขึ้น ซึ่งการมีซันไช่อยู่เสมือนการเติมเต็มส่วนที่หายไปของชีวิตให้มีสีสันขึ้นอีกครั้ง และเพราะแบบนี้การปล่อยมือจากซันไช่มันจึงยากเหลือเกิน จนสุดท้ายก็เรียนรู้ว่าอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีซันไช่ และถ้าตัดใจไม่ได้ ก็จะไม่ตัดอีกเลย
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
[[ อาซื่อ + ซันไช่ กว่าจะรักกัน ]]
ต้องบอกว่าเต้าหมิงซื่อเวอร์ชั่นนี้บทจะรักก็โครตดีงามมมม แต่พอจะร้ายขึ้นมา ใครหน้าไหนนางก็ไม่ไว้หน้าทั้งนั้น อาซื่อร้ายมากจริงๆ ตาดุๆ ที่จ้องมาที่ซันไช่อย่างแน่วแน่ และการใช้กำลังลงมือกับซันไช่ตอนที่ซันไช่จี้ใจดำเรื่องครอบครัวเข้าเต็มๆ จนเผลอทำร้ายอย่างไม่ได้ตั้งใจ บวกกับปากร้ายๆ ที่ทำให้บางครั้งซันไช่ต้องคอยหลบหน้า และถอยหนีเพราะไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า

แต่พออาซื่อรู้ตัวว่าตกหลุมรักซันไช่เข้าแล้ว ก็พยายามปรับตัว ซึ่งเราจะได้เห็นตั้งแต่ตามตื้อ คอยเอาใจ แม้จะทำไม่ถูกไปบ้างเพราะไม่เคยมีแฟน ไม่เคยจีบสาว แต่ก็มีความพยายามไม่ลดละ รวมทั้งยังอดทนอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนซันไช่ที่อกหักจากเล่ย และคอยปลอบจนทำให้ซันไช่ค่อยๆเปิดใจให้เขาทีละน้อย จนเราที่เป็นคนดูยังคิดเลยว่าอาซื่อนี่มันน่ารักจริงๆวุ้ยยย

กว่าซันไช่จะเปิดใจ กว่าซันไช่จะรู้ตัวเองว่าชอบอาซื่อ ก็ปาเข้าไปจะครึ่งเรื่อง แล้วยังต้องมาเจอคู่หมั่นอาซื่อ และแม่อาซื่อที่เป็นอุปสรรคให้ทั้งสองต้องรักๆเลิกๆกันอีก ด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความแตกต่างฐานะ ทำให้ซันไช่ต้องยอมถอยออกมาจากอาซื่ออยู่บ่อยครั้ง  จนในที่สุดก็เรียนรู้ว่าการทำเพื่อคนอื่นแต่ตัวเองไม่มีความสุขมันเศร้าเพียงใด และการไขว่คว้าความสุขมันไม่ใช่เรื่องผิดเลยสักนิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้กับกลายเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้ทั้งคู่รักกันมากกว่าเดิม และเห็นค่าในความรักนี้ ว่าอีกฝ่ายทุ่มเทมากเท่าไหร่ ซึ่งตอนหลังๆ นี่ยังกับนั่ง Roller Coaster เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง เดี๋ยวตีลังกา เรียกว่าปรับอารมณ์กันไม่ทัน แต่ก็ยังส่งใจเชียร์คู่นี้แบบสุดๆ

[ฉากที่ชอบ]
- ตอนที่ซันไช่เป็นฝ่ายรุกอาซื่อเป็นครั้งแรก
cr. tumblr
cr. tumblr
- ตอนที่อาซื่อร้องไห้ ที่คิดว่าเล่ยกับซันไช่คบกัน
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
- ตอนที่อาซื่อโยนสร้อยคอทิ้ง แล้วซันไช่ลงไปหา จนคิดได้ว่าที่เจ็บปวดอยู่เป็นเพราะหลงรักอาซื่อเข้าแล้ว
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
- ตอนที่เจ้จวงมาขัดจังหวะ =w=
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
- ตอนที่เดทครั้งสุดท้ายที่ลอนดอน
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
- และแน่นอนว่าฉากแต่งงาน =w=
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com
cr. beautyandthebigboss.tumblr.com

[เปรียบเทียบเวอร์ชั่น 2000 VS 2018]
- ก็ยังคิดว่าเวอร์ชั่นแรกกลุ่ม F4 ดูมีพลังสุด ออร่ายังเจิดจ้าจนถึงทุกวันนี้
- เต้าหมิงซื่อเวอร์ชั่นล่าสุดดีงามพระรามแปดเก้าสิบ (แค่แปดมันไม่พอ 5555)
- เพลงประกอบเวอร์ชั่นแรกติดหู จนแบบมันคือกิมมิคไปแล้ว แต่เวอร์ชั่นล่าสุดก็ดีงาม จนแบบถ้าเปิดเพลง River คือนึกถึงฉากอาซื่อเดินมาหาแน่ๆ คือดีแบบเลือกรักทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลย
- ดราม่าครอบครัวเวอร์ชั่นนี้คิดว่ามันจบง่ายไปหน่อย เหมือนโดนตัดจบยังไงอย่างงั้น
- ซันไช่เวอร์ชั่นนี้ใจดีกับคนอื่นเกินไปหน่อย แถมทำอาซื่อเสียใจก็หลายครั้ง ใจร้ายยย

[เพลงประกอบ]
Ni Yao De Ai (เพลงเดียวกับเวอร์ชั่นแรกสุด)

Like a river

Say something

Don't even have to think about it

For you

Love, Exist

By. เจ้าพีฯ
Share on Google Plus

About PEARRIEZ

ชอบดูหนัง อ่านหนังสือนิยาย การ์ตูน ฟังเพลง ท่องเที่ยว อะไรที่ทำแล้ว Entertain ตัวเองคือชอบหมด หวังว่าสิ่งที่เราชอบ ที่เราแนะนำ จะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้างสักเล็กน้อยก็คงดี ^^
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 Comments:

แสดงความคิดเห็น