Jason Bourne [4.5/5]
Type : Action
คุ้มค่ากับการรอคอยการกลับมาของ Matt Damon ในบทเจสัน บอร์น
[รีวิว]
การกลับมารับบทเดิมอีกครั้งของ Matt Damon ในบท เจสัน บอร์น ผู้เป็นอดีตสายลับของ CIA ถือเป็นการคืนฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่เสียแรงที่คนดูตั้งความหวังรอกันมาหลายปี มันเป็นความรู้สึกที่ว่า ประทับใจ ปลื้มปริ่ม และสมหวังกับการรอคอยแสนนานนี้
ตัวหนังยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์สูง เหมือนอย่าง 3 ภาคแรก คือเราจะไม่รู้ว่า พ้อยท์ของเรื่องคืออะไร มันสู้กันเพื่ออะไร และ เจสัน บอร์น ตามหาอะไรอยู่ ซึ่งกว่าจะได้รู้คำตอบเหล่านี้ ก็ตอนหนังใกล้จบแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของหนังชุดนี้เหลือเกิน มันเหมือนเป็นการค้นหาตัวตน และอดีตของบอร์น ไปพร้อมๆกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั่นเอง
ตัวหนังยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์สูง เหมือนอย่าง 3 ภาคแรก คือเราจะไม่รู้ว่า พ้อยท์ของเรื่องคืออะไร มันสู้กันเพื่ออะไร และ เจสัน บอร์น ตามหาอะไรอยู่ ซึ่งกว่าจะได้รู้คำตอบเหล่านี้ ก็ตอนหนังใกล้จบแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของหนังชุดนี้เหลือเกิน มันเหมือนเป็นการค้นหาตัวตน และอดีตของบอร์น ไปพร้อมๆกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั่นเอง
ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ยังคงดีเฉกเช่นเดิม มีความตื่นเต้น บู๊ดุเดือด จนเราแอบลุ้นไปกับบอร์นด้วย รวมถึงอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของหนังเรื่องนี้ คือจะเอาวัตถุ สิ่งของรอบตัวต่างๆมาเป็นอาวุธ มากกว่าที่จะใช้ปืนเป็นหลัก เช่น เราจะเห็นการใช้ขาเก้าอี้ การใช้คันโยกของตู้สล็อต และอีกมากมายที่จะทำให้เราทึ่งกับตัวละครนี้จริงๆ
แต่ตัวเนื้อเรื่อง เราแอบมีข้อติดใจเล็กน้อย ว่าทำไมดิวอี้ถึงยอมให้ เฮทเธอร์ ลี เข้ามาคุมภารกิจง่ายจนเกินไป เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่เคยทำงานฝ่ายปฏิบัติการณ์ด้วยซ้ำ เราติเรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ ส่วนตอนจบ ตอนแรกแอบคิดว่าหักมุมนี่นา แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้น เพราะสุดท้าย เจสัน บอร์น ก็ยังเป็น เจสัน บอร์น เป็นอดีตสายลับที่จะนำหน้าทุกคนไปหนึ่งก้าวเสมอ ประทับใจมากจริงๆ
By. เจ้าพีฯ
ปล. เราเคยเห็นหลายคนพูดว่า หนังไม่สนุกเท่าไหร่ เรากลับไม่รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นแฮะ หนังมันสนุกแล้ว สนุกแบบที่ควรจะสนุก ดีแบบที่ควรจะเป็น เราว่าเขาเหล่านั้น คาดหวังมากกับอะไรบางอย่างมากไปหรือเปล่า และถ้ามองเทียบกับหนังสายลับในช่วงนี้ เราว่าเจสันบอร์นภาคนี้ ยังดีมากกว่าอีกเยอะนะ
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น