[ TRAVEL : JAPAN 2016 ] กาลครั้งหนึ่ง.. ณ แดนซากุระ -Day5- :: FUSHIMI INARI SHRINE & CASTLES

[ TRAVEL : JAPAN 2016 ] กาลครั้งหนึ่ง.. ณ แดนซากุระ -Day5- :: FUSHIMI INARI SHRINE & CASTLES
เมื่อเราเริ่มคุ้นชินกับสิ่งใด อีกไม่นานคงต้องโบกมือลาจากไป .. 

DAY 5 (10 เมษายน 2559)

วันเที่ยวแบบสบายๆ เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะเที่ยวในฝั่งคันไซ ตื่นสายๆ และออกไปเที่ยวแบบไม่รีบร้อน แต่ละวันพวกเราใช้ชีวิตอยู่กับชินคันเซ็นตลอด ชานชาลาที่ 25 และ 26 ในสถานี Shin-Osaka เริ่มคุ้นเคยแล้วหละ โดยเฉพาะวันนี้นั่งชินคันเซ็นเกือบทั้งวันเลยหละ สบายยย :)

ศาลเจ้าจิ้งจอก Fushimi inari shrine
ศาลเจ้าที่หากมีโอกาส แนะนำว่าควรจะมาสักครั้ง เป็นศาสเจ้าที่มีเอกลักษณ์ คือ รูปปั้นสุนัขจิ้งจอก และเสาโทริอิเรียงรายเป็นทางเดินกว่าพันต้นขึ้นไปบนเขา รวมถึงทางเข้าศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิต้นใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า เรียกว่าถ้ามาแล้ว ไม่มีทางหาทางเข้าไม่เจอแน่นอน ตอนเราไปเป็นวันอาทิตย์ เหมือนวันครอบครัว ชาวญี่ปุ่นเยอะมากๆ ลูกหลานพาครอบครัวมาเที่ยว หรือผู้สูงอายุออกมาเดินเล่น โดยจูงหมามาด้วย เจอหลายพันธุ์เลยหละ น่าร๊ากกกก :)
มาถึงแล้วก็แวะเดินขึ้นเขาผ่านเสาโทริอิเป็นพันต้น ให้เข้าด้านขวา และออกทางด้านซ้ายนะฮะ ด้านบนจะมีศาลเจ้าให้สักการะอยู่ และเมื่อลงมาถึงทางออกศาลเจ้าจะมีร้านขายของฝากมากมาย ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของที่เป็นที่ระลึก
พอเลยร้านขายของที่ระลึกต่างๆมา จะมีซอยทางเดินยาวลงไปเพื่ออกถนนหลัก จะมีร้านค้ามาเปิดขายอาหารเต็มเลย ชอบร้านไหน อยากทานอะไรก็มุ่งเข้าไปเลยฮะ และเท่าที่ชิมมาหลายร้าน ก็ยังไม่เจอที่ไม่อร่อยนะ
ร้าน Isomaru Suisan ก็มาเปิดขายด้วยหละ ราคาแพงกว่าที่ขายตามร้านประมาณ 50y แต่คุณภาพไม่ด้อยกว่ากันเลย ส่วนที่ฮือฮานักท่องเที่ยวที่สุด คือร้านยากิโซบะ ราคา 500y ให้เต็มกล่อง จนปิดกล่องไม่มิด ทานได้ 2-3 คนเลย ขายดีมากกกก
การเดินทาง : JR Shin-Osaka -> JR Kyoto -> JR Inari ออกจากสถานีมาก็เจอศาลเจ้าเลย

ปราสาทฮิเมจิ Himeji Castle
ถ้าในแพลนเที่ยวมีเวลาเหลือเยอะๆ ก็ควรจะมาสักครั้ง แม้ว่าจะเสียเวลาในการเดินทางนานก็ตามที (จากเกียวโตไปฮิเมจิ ด้วยชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) พอถึงแล้วก็ตรงไปยาวๆเลยฮะ จะเห็นตัวปราสาทอยู่ไกลลิบๆ เราไม่รีบก็เดินชิวๆ แต่ถ้าใครรีบหน่อยจะนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่ก็ตามสะดวกฮะ มีรถเยอะแยะจ้า
กว่าจะเดินถึงตัวปราสาทก็แอบเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่ด้วยสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อะไรมันก็แฮปปี้ไปหมด ตามทางเดินเป็นต้นแปะก๊วยเรียงราย ถ้ามาตอนใบสีเหลืองคงฟินเว่ออออ และเจอคู่รักมาขี่จักรยานด้วยกัน ครอบครัวพาหมามาเดินเล่น และรู้สึกว่าเมืองนี้เงียบสงบดีจริงๆ ก็เป็นบรรยากาศที่แปลกไปอีกแบบนึง ^^
หลังจากเดินรอบปราสาท 1 รอบ บอกเลยว่าถูกใจมาก คือมันเดินสบาย ใหญ่ โล่ง ไม่แออัด และได้เห็นการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นจริงๆ แบบครอบครัวมาปิคนิค พาลูกมาดูสวนสัตว์เด็ก ตีแบต นอนเล่น ขี่จักรยาน เครื่องเล่นเด็ก มันมีทุกอย่างสำหรับครอบครัว ชอบๆๆๆ แล้ววิวดีมากๆ ปราสาทถ่ายได้ทุกมุม เจาะผ่านดอกไม้ ต้นไม้ไปเรื่อย ฟินอ้ะ โดยเฉพาะช่วงซากุระด้วย ถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด :)
ขากลับ ตอนออกจากปราสาทประมาณสัก 5 โมงกว่าๆ เค้าจะมีบริการพานั่งเรือท่องเที่ยวชมรอบปราสาทด้วย ถ้ามารอถ่ายรูปแล้วได้จังหวะดีๆ คู่กับปราสาทด้วยนะ ภาพจะสวยมากกกก และเหมือนเดิม ขากลับเราก็เดินกลับ 5555 เดินให้ขาลากไปเลย แต่มุมนี้ จากหน้าปราสาทมองกลับไปที่สถานีรถไฟ คือสวย ชอบ บรรยากาศดีมากกก ประทับใจปราสาทนี้จริงๆนะ หลงรักซะแล้วหละ T^T
วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ เหมือนเค้าจัดงานแฟร์ด้วย(ฟีลแบบตลาดนัด) มีขายอาหาร ขนม อยู่ที่สวนฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าปราสาท แถวๆตึกที่เป็น Tourist Information Center (สามารถขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าได้ เค้าเปิดให้เข้าชมฟรี จะได้ภาพมุมสูงของเมืองนี้และตัวปราสาทฮิเมจิเลยหละ) เราลองไปเดินชิมนู่นนี่มา แต่ที่ถูกใจคือทาโกะยากิ อร่อยยยย อร่อยกว่าร้านดังแถว Dontonburi อีก ถ้ามีร้านอยู่แถวที่พักนะ นี่ซื้อกินทุกวันแน่ๆ แต่เสียใจ ร้านอร่อยอยู่ไกล๊ไกล
ส่วนมื้อเย็น ข้าวหน้าสเต็กเนื้อ บังเอิญเจอร้านนี้ตอนเดินกลับสถานีรถไฟ เพราะเราเดินเข้าซอยการค้า หาแหล่งช็อปไปเรื่อย เป็นซอยยาวๆเหมือนย่านชินไซบาชิที่มีร้านค้ามากมายนั่นแหละ และข้าวหมูทอดราดไข่ ข้าวหน้าปลาไหล อันนี้เป็นร้านอาหารอยู่ในสถานีรถไฟ อยู่ในโซนชินคันเซ็น หาไม่ยาก เพราะในโซนนี้มีไม่กี่ร้าน แต่รับรองว่าอร่อยยย เป็นข้าวหน้าหมูทอดที่ถูกปากเราสุดตั้งกินที่ญี่ปุ่นมา ;)
การเดินทาง : JR Inari -> JR Kyoto -> JR Himeji ออกจากสถานีมาก็เดินตรงยาวๆเลย ข้ามแยกใหญ่ประมาณ 3-4 แยก จะมองเห็นปราสาทอยู่ไกลลิบๆเลย เดินชิวๆก็เพลินไปอีกแบบนะฮะ

ปราสาทโอซากะ Osaka Castle
เพราะเป็นคืนสุดท้ายในคันไซแล้ว ถ้าไม่ได้ไปปราสาทโอซากะคงเสียดายแย่ และวันนี้เป็นวันแห่งการเดินด้วย เดินไปยาวๆเลยฮะ ไม่ดึกเราไม่นอน 5555 ที่นี่ตอนดึกก็ยังมีคนมาเดินกันอยู่เลย ไม่ต้องกลัวเปลี่ยวฮะ และดีเสียอีกมาตอนคนน้อย ทั้งยังเปิดไฟรอบปราสาทด้วย ได้ภาพในอีกหนึ่งบรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ
ตอนดึกๆ อากาศเริ่มเย็นมากขึ้น ใครจะมาเดินเล่นก็ใส่เสื้อกันหนาวมาดีๆนะ หรือจะมากดเครื่องดื่มร้อนที่ตู้กดน้ำอัตโนมัติก็ได้ ช่วยทำให้มืออุ่นขึ้นมากจริงๆ เหมือนแบบในการ์ตูนหรือหนังญี่ปุ่นที่พระเอกซื้อมาให้นางเอกไว้กันหนาวไรงี้เลยหละ
การเดินทาง : JR Himeji -> JR Shin-Osaka -> JR Osaka -> JR Osakajokoen แล้วเดินอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

ปล. ใครมาคนเดียวดึกๆ ต้องมีภูมิต้านทานดีๆนะ เพราะคู่รักเยอะมากกกกก นั่งกันเป็นคู่ๆรอบปราสาทเลย สวีทกันไปอีกกก เห็นแล้วเขินแทน >.<

By. เจ้าพีฯ

MORE STORIES

[KANSAI]
DAY 1 : IF NOT NOW, THEN WHEN? BKK -> NARITA -> OSAKA
DAY 2 : RAINY DAY in OSAKA & KOBE
DAY 3 : USJ
DAY 4 : KYOTO LANDMARKS

DAY 5 : FUSHIMI INARI SHRINE, HIMEJI CASTLE, OSAKA CASTEL
Share on Google Plus

About PEARRIEZ

ชอบดูหนัง อ่านหนังสือนิยาย การ์ตูน ฟังเพลง ท่องเที่ยว อะไรที่ทำแล้ว Entertain ตัวเองคือชอบหมด หวังว่าสิ่งที่เราชอบ ที่เราแนะนำ จะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้างสักเล็กน้อยก็คงดี ^^
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 Comments:

แสดงความคิดเห็น